เฉินตู |
เฉินตูเป็นเป็นนครเอกของมณฑลเสฉวน (ซื่อชวน) และเป็นเมืองที่ชื่อเสียงโด่งดังทางด้านประวัติศาสตร์ ทั้งเป็นบ้าน เกิดเมืองนอนดั้งเดิมของหมีแพนด้า ยังเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยี การพาณิชย์ การเงินและหัวสะพานแห่งการคมนาคมทาง ภาคตะวันตกที่สำนักนายกได้กำหนดเมื่อ
ปี ค.ศ. 1999 และเมืองนำร่องทางเศรษฐกิจเปิดทางด้านตะวันตก |
|
เฉินตูตั้งอยู่ที่ก้นกระทะเสฉวน กลางลุ่มแม่น้ำหมินเจียงตะวันออกเทือกเขาหลงเฉวียน เนื้อที่ประมาณ 2,500 ตารางกิโลเมตร พลเมือง 9 ล้าน กว่าคน ใกล้กับชลประทานเขื่อนตูเจียงเอียน ในแม่น้ำหมินเจียง ซึ่งเป็นชลประทานแยกสายกระจายออกไปเป็นรูปพัด เพื่อทดน้ำเข้าสู่ที่ราบเฉินตู ความต้องการจึงเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ จนได้ฉายาว่าเป็น “เมืองสวรรค์” เฉินตูยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ ก่อนคริสต์ศักราช 500 กว่าปี ที่นี่เป็นที่ตั้งของเมืองสู่ หลังจากนั้นราชวงศ์ซีโจวได้ตั้งเมืองเฉินตูขึ้น ก่อนคริสต์ศักราช 316 ปี ก๊กฉินปราบ 7 ก๊ก ตั้งเฉินตูเป็นเมืองเอก จากนั้นเป็นต้นมาเฉินตูค่อยๆพัฒนาตามลำดับ จนเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ การคมนาคม การเมือง 1 ใน 4 ในเวลานั้นตามใบบันทึกตามประวัติสาสตร์ของจีน ถึงแม้ใน 2,000 กว่าปี ราชวงศ์ก็เปลี่ยนไปเป็นหลายสิบราชวงศ์ แต่ชื่อเฉินตูมีตำแหน่งฐานะเป็นเมืองเอกของมณฑลนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกเรื่องหนึ่งสำหรับการเปลี่ยนแปลงการปกครองของจีนในระยะเวลา 2,000 กว่าปี |
ปัจจุบันนครเฉินตูมีเขตการปกครอง 6 เขต 8 อำเภอ และ 4 อำเภอ เมื่อพลเมือง 9 แสนคน ส่วนมากเป็นชาวฮั่น ภาคตะวันออกและภาคเหนือเป็นเขตอุตสาหกรรม ตะวันตกเป็นสถานวัฒนธรรมการท่องเที่ยว อาทิ กระท่อมตู้ผู่ วัดชิงหยางกง ศาลเจ้าขงเบ้ง สุสานหวางเจี้ยน ศูนย์เพาะพันธุ์และวิจัยหมีแพนด้า วัดเป๋ากวาง วัดหวินสู้ สวนไผ่ว่างเจียงโหลว วัดเจาเจี๊ยะซื่อ เป็นต้น ภาคใต้เป็นเขตมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ เป็นต้น |
|
ศาลเจ้าขงเบ้ง
ศาลเจ้าขงเบ้งตั้งอยู่ที่ภาคตะวันเฉียงใต้ของเมืองเฉินตูเนื้อที่ 37,000 ตารางกิโลเมตร สร้างในสมัยซีจิ้นปี ค.ศ. 395 เพื่อระลึกมหาอุปราชของก๊กสู่เล่าปี่ สมัยสามก๊ก หลังเข้าซุ้มประตู ภายในกำแพงสองด้านเป็นบทความออกศึกครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของขงเบ้งเขียนให้แก่เล่าปี่ ซึ่งคัดโดยลายพู่กันของจอมทัพเยียะเฟย (งักฮุย) ในภายหลังระเบียงทั้งสองข้างเป็นตู้แสดงขุนนางขุนศึกของขงเบ้งหลายสิบนาย อาทิ หม่าจิ้น (ม้าเจ็ก) เจียงเวย หวางไก้ (อุยกาย) เจ้าจื่อหลง (จูล่ง) เป็นต้น ในศาลาแรกห้งรูปปั้นของเบ้ง ห้องซ้ายเป็นรูปปั้นของกวนอู ห้องขวาเป็นรูปของเตียวหุย ศาลาหลังเป็นศาลเจ้าขงเบ้ง โดยเฉพาะออกจากศาลาของเบ้งเป็นสวนท้อที่เล่าปี่ กวนอูและเตียวหุยสามพี่น้องสาบานกัน ออกจากสวนไปทางซ้ายเป็นสุสานของเล่าปี่ หน้าสุสานป้ายวิญญาณเขียนว่า “ฮั่นเจาเลียะมู่” เนื้อที่เท่ากับศาลเจ้าโฉวจือ |
ตู้ผู่เฉ่าถัง-กระท่อมนักกวีตู้ผู่
กระท่อมตู้ผู่ตั้งอยู่ทางทิสตะวันตกเมืองเฉินตู เป็นบ้านพักเดิมที่ตู้ผู่เข้ามาอาศัย ณ เมืองเฉินตู เริ่มสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งปี ค.ศ. 1078 เพื่อระลึกถึงกวีชื่อดังในสมัยถัง (ปี ค.ศ. 712-770) โดยจำลองเป็นกระต๊อบ บ้านพักตู้ผู่เนื้อที่ 130 กว่าไร่ไทย ภายในจัดเป็นสวนดอกไม้ สวนไผ่ ภูเขาจำลอง ศาลาศาลเจ้าและเก๋งธารน้ำ สะพานเป็นต้น หลังจากเกิดกบฏ “อานลู่ซานและสื่อซือหมิง” ปี ค.ศ. 759 ตู้ผู่ได้มาอยู่ที่นี่เป็นเวลา 4 ปี และแต่งกวีไว้หลายสิบบท |
วัดเจาเจี่ยซื่อ
วัดเจาเจี่ยซื่อ อยู่ด้านเหนือเมืองเฉินตู เดิมเป็นวัดอันดับ 1 ของเสฉวน สร้างในสมัยราชวงศ์ถังปี ค.ศ. 629 บริเวณกว้างขาวงมีวิหารจตุโลกบาล วิหารใหญ่และศาลาสงฆ์ ทั้งสวนสนร่มรื่น วิหารเจ้าแม่กวนอิมเด่นเป็นพิเศษ |
วัดเป่ากวงซื่อ
ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเฉินตู เมืองชินตูไป 19 กิโลเมตร สร้างในสมัยตงฮั่นปี ค.ศ. 168 และเคยถูกไฟไหม้หลายครั้ง แต่ก็ได้บูรณะใหม่ตลอดมา เนื้อที่ 54 ไร่ไทย เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ประกอบด้วย 1 เจดีย์ 5 วิหาร 16 ลาน ซึ่งค้ำด้วยเสาหินกว่า 400 ต้นใหญ่โตมโหฬาร มีเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักอย่างสวยงามพร้อม 500 อรหันต์ |
|
สวนไผ่ ว่างเจียงโหลว
สวนไผ่ตั้งอยู่ทางด้านตะวนออกริมแม่น้ำจิ่นเจียง เนื้อที่กว่า 80 ไร่ไทย เชื่อกันว่าเป็นบ้านพักเก่าของนักกวีสาวซินเทา เป็นคนในสมัยราชวงศ์ถัง เดิมอยู่ฉางอาน แล้วได้ย้ายมาอยู่เฉินตูกับพ่อตอนยังเยาว์ มีความสามรถในการดนตรีขับร้องแต่งกวีเป็นอย่างดี ในสวนยังคงเหลือบ่อซินเทาและบ้านซินเทา (เสียหายแล้ว) เก๋งว่างเจียงโหลวเป็นอาคารที่สร้างใหม่ ภายในสวนปลูกไผ่หลากหลายชนิด บรรยากาศร่มรื่น ชาวเฉินตูมีสินค้าผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่บริการลูกค้าชาวเฉินตู นิยมมาออกกำลังกายและกินน้ำชากัน |
ซานซิงตุย-พิพิธภัณฑ์ทองสัมฤทธิ์
ซานซิงตุยตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเฉินตูไปกว่า 90 กว่ากิโลเมตร เขตเมืองกวางฮั่น เป็นพิพิธภัณฑ์ทองสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นการขุดพบที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของจีนเมื่อปี ค.ศ. 1992 เปิดให้เข้าชมเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคมปี ค.ศ. 1997 พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บริเวณหลุมขุดพบโบราณวัตถุ เนื้อที่ 125 ไร่ไทย รัฐบาลลงทุน 31 ล้านหยวน พิพิธภัณฑ์ซานซิงตุยได้รวมการจัดแสดงประวัติสาสตร์ผลการวิจัยทางวิชาการ การเรียนการสอน การจัดสวน การท่องเที่ยวในหนึ่งเดียว เป็นสถานที่ทางวัฒนธรรมและโบราณขนาดใหญ่ หลังจากเปิดเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 1997 มีผู้มาใช้บริการนับแสนดึงดูดความสนใจชาวโลก
ปี ค.ศ. 1995 ได้จัดแสดงที่เยอรมณี
ปี ค.ศ. 1997 ได้จัดแสดงที่อังกฤษ
ปี ค.ศ. 1993 ได้จัดแสดงที่สวิตเซอร์แลนด์
ปี ค.ศ. 1998 ได้จัดแสดงที่ญี่ปุ่น
ปี ค.ศ. 2001 ได้จัดแสดงที่อเมริกา |
ลั่วเฟิงพอ-ดอยหงส์ตก
ดอยหงส์ตกตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเฉินตูไป 70 กิโลเมตร ในอำเภอเต๋อหยางด่านไป๋หม่ากวน สมัยสามก๊กปี ค.ศ. ผู้ช่วยมหาอุปราชบังทอง คุมทหารเล่าปี่บุกเข้าเสฉวนตีหัวเมืองหลายอำเภอ ปี ค.ศ. 214 บังทองคำนึงถึงความปลอดภัยของเล่าปี่เอาม้าสีน้ำตาลของตนเปลี่ยนม้าขาวของเล่าปี่ กองทัพเดินหน้าผาสูงบังทองเงยหน้ามองเห็นสลักบนหน้าผามีตัวหนังสือสามตัวเขียนว่า “ลั่วเฟิงพอ”- ดอยหงส์ตก (บังทองมีฉายาว่าหงส์น้อย) จึงรีบสั่งทหารถอยออกจากหุบเขาแต่ไม่ทัน ทหารโจโฉซึ่งซุ่มอยู่บนยอดเขาต่างตะโกน “ยิงคนที่ขี่ม้าขาว” คนขี่ม้าขาวคือเล่าปี และแล้วบังทองถูกยิงตกม้าตายที่ดอยหงส์ตก เล่าปี่ร้องไห้เสียดายและฝังบังทอง ณ ที่ด่านไป๋หม่ากวน สุสานบังทองอยู่ที่เดียวกับดอยหงส์ตก |